บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 5
การจัดประสบการณ์วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย
Sience Experiences Management For Early Childhood
วันอังคารที่ 05 กันยายน พ.ศ. 2560เวลา 8.30 - 12.30 น.
Story of subject
ในคาบนี้อาจาย์ได้มอบหมายงานให้จับกลุ่มและศึกษาแนวคิดของนักทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับ
พัฒนาการด้านสติปัญญา ซึ่งกลุ่มของข้าพเจ้าได้ศึกษาทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของ
บรูเนอร์ (Bruner) ซึ่งเป็นนักจิตวิทยาที่สนใจและศึกษาเรื่องของพัฒนาการทางสติปัญญา
ต่อเนื่องจากเพียเจต์
โดยบรูเนอร์ มีความเชื่อว่า " พัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็กเกิดจากกระบวนการภายในอินทรีย์ เน้นความสำคัญของสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมที่แวดล้อมเด็ก "
บรูเนอร์ได้เสนอหลักการของทฤษฎีไว้ 4 ลักษณะ ดังนี้
1. แรงจูงใจ คือ แรงจูงใจที่เกิดจากตัวผู้เรียน
2. โครงสร้าง คือ โครงสร้างของบทเรียน
3. ลำดับขั้นความต่อเนื่อง คือ ลำดับเนื้อหาที่จัดให้ผู้เรียน
4. การเสริมแรง คือ ตัวกระตุ้นให้เด็กเกิดความสนใจในการเรียน
บรูเนอร์ได้แบ่งลำดับขั้นของพัฒนาการไว้ 3 ขั้น ดังนี้
ขั้นที่ 1 : ขั้นการกระทำ
เป็นขั้นที่เด็กได้เรียนรู้จากการใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ได้แก่ ตามองดู หูฟัง กายสัมผัส จมูกดมกลิ่นและลิ้นชิมรส
ขั้นที่ 2 : ขั้นจินตนาการ
เป็นขั้นที่เด็กได้คิดและจินตนาการหลังจากที่ได้ลงมือกระทำผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5
ขั้นที่ 3 : ขั้นใช้สัญลักษณ์และความคิดรวบยอด
เป็นขั้นที่เด็กถ่ายทอดสิ่งที่ได้รับรู้ผ่านสัญลักษณ์ต่างๆ เช่น ท่าทาง ภาษา ชิ้นงาน เป็นต้น เป็นขั้นที่เด็กพัฒนาความคิดรวบยอด
แนวทางในการนำทฤษฎีของบรูเนอร์ไปใช้ในการจัดการเรียน
1. ผู้เรียนต้องมีแรงจูงใจในการเรียน คือ เลือกเรื่องที่ผู้เรียนสนใจ อยากรู้ อยากศึกษา
2. โครงสร้างของบทเรียนมีความเหมาะสม คือ เนื้อหาต้องเหมาะสมกับพัฒนาการและวัยของผู้เรียน
3. การจัดลำดับเนื้อหา คือ ควรเริ่มเรียนจากเนื้อหาที่ง่ายไปยากไม่ควรข้ามขั้น หรือสอนวนไปมา
4. การเสริมแรง คือ ต้องมีแรงกระตุ้นให้ผู้เรียนอยากเรียน อยากพัฒนาตนเองและเกิดความภูมิใจ
ในตนเอง อาทิ คำชมเชย ของรางวัล เป็นต้น
สรุป : บรูเนอร์มีความเห็นว่า ทุกคนจะมีพัฒนาการทางความรู้ ความเข้าใจ โดยผ่านขั้นความคิด 3 ขั้น
ซึ่งเป็นกระบวนการที่ต่อเนื่องไปตลอดชีวิต
Adoption
ในการจัดการเรียนการสอนนั้น ต้องคำนึงถึงพัฒนาการและช่วงวัยของเด็กเป็นหลัก การจักลำดับเนื้อหาต้องดูที่ความสามารถของเด็กแต่ละวัย แต่ละบุคคล โดยเนื้อหาที่จัดนั้นต้องเรียองจากง่ายไปหายาก ควรสอนเรื่องพื้นฐานก่อนที่จะลงสู่เนื้อหาที่ซับซ้อนมากขึ้น และในการเรียนนั้นควรมีการเสริมแรงให้กับเด็กบ้างเนื่องจากจะทำให้เด็กอยากเรียนในบทเรียนมากขึ้น สร้างความท้าทายเพื่อให้เด็กเกิดความภูมิใจในตนเองเมื่อทำสิ่งครูมอบหมายได้สำเร็จ
Evaluation
ตนเอง : วันนี้ไม่ได้เข้าเรียน จึงไม่ได้ทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนๆในชั้นเรียน
เพื่อน : เพื่อนแต่ละคนมีส่วนช่วยในงานกลุ่ม มีการร่วมกันแสดงความคิดเห็น ออกแบบและสร้างชิ้นงานเพื่อนำเสนอหน้าชั้นเรียน
อาจารย์ : เป็นผู้มอบหมายงานและชี้แนะแนวทางในการทำงาน มีการให้คำปรึกษาเมื่อนักศึกษามีข้อสงสัยในการทำงาน
*เนื่องจากไม่ได้เข้าเรียนจึงอ้างอิงเนื้อหาจาก นางสาววัชรี แตงเพ็ชร*
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น